หน้าเว็บ

เพลง

เพลงจีนบรรเลงไพเราะ

วันอังคารที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2557

4 ฤดูกาลที่กำแพงเมืองจีน



4 ฤดูกาลที่กำแพงเมืองจีน
To get in  Chinese   language   should   also learn Chinese Culture, it’s  easy to get in.

อาจารย์ที่ได้สอน ภาษาจีนได้เคยกล่าวไว้ในห้องเรียนว่า
จะเข้าใจในภาษาจีนเราควรจะเรียนรู้วัฒนธรรมของจีนด้วย  มันจะทำให้ง่ายที่จะเข้าใจ

      เริ่มรู้จักกับเมืองจีน  สิ่งที่ใกล้ตัวคือธรรมชาติในที่นี้คือ ฤดูกาลในประเทศจีน
     ฤดุกาลในประเทศจีนมี 4  ฤดูกาลได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ  ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว  ในแต่ละปีอุณหภูมิในเมืองต่างๆที่อยู่ทางใต้ของจีนเช่นคุณหมิง เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเล็กน้อย ซื่งตรงกันข้ามกับเมืองทางตอนเหนือ เช่น ฮาร์บิ้น  อากาศจะร้อนที่สุดในฤดูร้อนที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 30องศา  และในขณะที่ฤดูหนาวจะมีอุณหภูมิต่ำถึง -30 องศา 

           春夏冬秋 。 一 年中,  南方的 城 市化比   ,   北方得 ,  比如北方城 市 哈 尔     , 天最候有三十几    , 冬天最冷的候可能 到零下三十几  

ดังรูปภาพต่อไปนี้
            ซึ่งเป็นภาพเขียนสีน้ำที่แสดงให้เห็นภาพฤดูกาลต่างๆ ที่กำแพงเมืองจีน ปักกิ่ง








ขอขอบคุณรูปภาพสวยและข้อมูลดีจากๆจาก
หนังสือเรียน สัมผัสภาษาจีนเล่ม 2

เรื่องของตัวอักษรจีน


                          

เรื่องของตัวอักษรจีน
คงมีคนเคยสังเกตเหมือนกับเจ้าของบล็อกถึงตัวอักษรจีน ในหน้าหนังสือพิมพ์จีนที่มีขายในประเทศไทย ตัวอักษรเหล่านั้นมีขีดมากมายและมีตัวอักษรทั้งที่เหมือนและไม่เหมือนตัวอักษรที่ปรากฏในหนังสือเรียนภาษาจีน  จากการอ่าน  การเรียนและการค้นคว้ามาจึงพบว่า

     ตัวอักษรจีนมี 2 แบบคือ อักษรตัวเต็ม  繁体字 (fantizi / fántĭzì) in traditional characters       และอักษรตัวย่อ 简体字 (jiantizi / jiăntĭzì)

อักษรตัวเต็ม  繁体字 (fantizi / fántĭzì) in traditional characters  คือรูปแบบของตัวอักษรจีนดั้งเดิม
อักษรตัวย่อ 简体字 (jiantizi / jiăntĭzì)  คือรูปแบบของตัวอักษรจีนดั้งเดิม ที่มีการลดการขีด หรือรวบขีด เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ เหมาะสำหรับบุคคลที่เริ่มเรียนภาษาจีน เพราะช่วยลดภาระในการจดจำตัวหนังสือได้มาก ตัวอัการย่อนี้ได้จัดทำขึ้นโดยทีมงานระดับชาติที่ประกอบด้วยนักวิชาการชั้นนำของจีน
      
       เนื่องจากตัวอักษรจีนได้มีวิวัฒนาการมายาวนานกว่า 5000 ปี ตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกในกระดองเต่า  และมีการผ่านยุคสมัยมาและได้รับการพัฒนามาโดยลำดับจนมาถึง
ปี ค.ศ. 1949  กองทัพรัฐบาลพรรคก๊กมินตั๋ง  นำโดยจอมพลเจียงไคเช็ค พ่ายแพ้สงครามกลางเมืองให้แก่ กองทัพปลดแอกประชาชนจีนของ พรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งนำโดย เหมาเจ๋อตง จึงทำให้ถอยร่นไปตั้งหลักใหม่ที่เกาะไต้หวัน และตัดขาดความสัมพันธ์กันมานาน  และเพิ่งจะเริ่มเปิดประเทศติดต่อไปมาซึ่งกันในปี   ค.ศ. 2008 เป็นต้นมา

ปี ค.ศ. 1955  คณะกรรมการปฎิรูประบบการเขียนภาษาจีน ได้ประกาศอย่างเป็นทางการให้ใช้ อักษรตัวย่อ  ซึ่งมี 2238 ตัวจากตัวอักษร 56000 ตัว  ( แต่ในประเทศไต้หวัน ยังคงใช้ตัวอักษรดั้งเดิมมาจนทุกวันนี้ ) นอกจากนั้นยังมีประเทศที่ใช้ตัวย่อเช่นเดียวกับประเทศจีน ได้แก่  สิงคโปร์  มาเลเซีย  และคาดว่าตัวอักษรตัวย่อจะกลายเป็นกระแสหลักที่ใช้เขียนอักษรจีนในเวลาต่อไป

ปี ค.ศ. 1958 คณะกรรมการปฎิรูปการเขียนภาษาจีน ซึ่งแต่งตั้งโดยรัฐบาลจีน ประกาศให้ใช้ ระบบสัทอักษร (หรือเรียกว่าตัวกำกับการออกเสียงของภาษาจีน) Hanyu Pinyin ซึงดัดแปลงมาจากระบบสัทอักษรสากล IPA (International Phoenetics Alphabets) โดยยกเลิกระบบกำกับตัวออกเสียงแบบเดิมที่ใช้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1918 ที่เรียกว่า ( Zhuyin fuhua )เพื่อช่วยให้ระบบกำกับการออกเสียงภาษาจีนถูกต้องตามหลักวิชาการ และได้มาตรฐานมากขึ้น ทำให้สอดคล้องกับกระแสความนิยมการใช้สัทอักษรของโลก
      
 ที่เล่ามาถึงแม้ว่าการใช้สัญลักษณ์ที่ต่างกัน ของอักษรตัวเต็ม และอักษรตัวย่อของตัวอักษรจีนแล้วนั้น   แต่เรื่องการออกเสียงนั้นเหมือนกันทุกอย่าง ให้เข้าใจว่า ภาษาจีนกลางเกี่ยวกับการพูดออกเสียงที่ใช้สำเนียงปักกิ่งเป็นมาตรฐานเพียงอย่างเดียว ไม่เกี่ยวกับการเขียนตัวอักษรเลย



วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557

คนไทยเรียนภาษาจีน

    

  
            คงจะหนีไม่พ้นกระแสของจีน ไม่ว่าจะด้วยเรื่องประชากรที่มากที่สุดในโลกแล้ว พี่จีนยังคงแผ่อิทธิพลทางด้านการค้าไปทั่วโลก พบเห็นตามห้างสรรพสินค้าเจ้าของกิจการที่ขายอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ บางร้านก็เป็นคนชาติจีน นอกจากนั้นคนจีนรุ่นใหม่ยังเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศไทยของเรายังเป็นแหล่งท่องเที่ยวของคนจีน โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ที่มีจากกระแสภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง  นอกจากนั้นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นเช่นวัดพระแก้วกรุงเทพ  อยุธยา พัทยา ภูเก็ต แม้กระทั่งห้างสรรพสินค้าดังๆ มีนักท่องเที่ยวคนจีนมาแวะช็อปปิ้งเป็นจำนวนมาก

คนไทยเรียนภาษาจีน  โดยเริ่มจากการทักทายกันก่อน

คำทักทาย ของคนไทยเรา  สวัสดี
คำทักทาย ในภาษาจีน   Ni Hao ! (หนี ห่าว)
 

       โดยส่วนตัวของเจ้าของบล็อกเอง มีความชอบในภาษาจีนเป็นทุนเดิม   แต่เพิ่งมีโอกาสได้เป็น คนไทยเรียนภาษาจีนคนหนึ่ง   คนไทยคนนี้เรียนภาษาจีนเบื้องต้นจาก ศูนย์ภาษาคณะมนุษยศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นที่จุดประกายให้เสาะแสวงหาความรู้ด้านการเรียนภาษาจีน จากสื่อต่างๆ  และขอออกตัวก่อนว่าความรู้ที่มีแต่เพียงน้อยนิดและปัจจุบันยังสนใจที่เรียนรู้อยู่ด้วยตนเองที่บ้าน

       ในบล็อกนี้อยากจะมาแชร์สื่อหรือคลิปที่สอนภาษาจีน ที่สอนภาษาจีนโดยเจ้าของภาษาโดยสอนเป็นภาษาอังกฤษที่ใช้คำพูดที่เข้าใจได้ง่ายๆ   คนไทยที่สนใจอยากเรียนภาษาจีน แต่อาจไม่มีเวลาหรือต้องศึกษาด้วยตนเองที่บ้านได้มาติดตาม หรือแชร์ หรือพูดคุยกันนะคะ